ถึงตัวอยู่ไกล แต่ใจเราใกล้กัน



ถึงตัวอยู่ไกล แต่ใจเราใกล้กัน

สวัสดี....... ดวงตะวัน.....
คืนนี้มีดาวเต็มฟ้าทอประกาย...
ภาระฉันจึงไม่มี...มากมาย
พอมีเวลานั่งเขียน....ถึงเธอ...
อยู่สบายไหม...ตะวัน...
เราไม่เคยได้เจอะกันเลยใช่ไหม...
ทั้งๆ ที่ฟ้าเดียวกัน...นั้นใกล้...
แต่เพราะภาระ... ของเราต่างกัน....
แม้จะไม่ได้พบ...เจอเธอ...
ก็รู้เสมอว่าเธอ...อยู่ตรงไหน...
และฉันก็รู้ว่างานเธอหนักเพียงใด...
เธอต้องดูแลใครๆ มากมาย....
อยากบอกเธอว่า...คิดถึง...
มีฉันซึ่งยังเป็นห่วง...เสมอ...
แม้ฉันไม่รู้เมื่อไร...จะพบเธอ...
แต่ฝันถึงเธอ...ทุกคืน....
รู้ไว้พระจันทร์..ดวงนี้...รอพบเธอ...
และคิดถึงเธอ...ทุกคืน.....


เมื่อคุณต้องอยู่ห่างไกลกับคนที่คุณรัก เหมือนอยู่กันคนละฟากฟ้า
เหมือนดวงจันทรา ที่ไม่อาจได้พบดวงตะวัน
ถูกขวางกั้น ด้วยระยะทาง และเวลา(ที่ต่างกัน)
ทำได้แค่เพียงฝากข้อความไปหา
และนั่งรอเวลาให้เขานั้นตอบกลับมาสักที
คุณจะพบว่า เมื่อเวลาผ่านไปๆ หลายปี
สิ่งที่คุณจะมีมากขึ้น คือ ความอดทน

การที่เราได้พบกันแค่ปีละครั้ง
สำหรับคู่รักแล้ว ช่างเป็นเวลาที่น้อยมาก
แต่เพราะภาระหน้าที่...
ที่ต่างคนต่างก็มี และต้องรับผิดชอบ
ความเข้าใจซึ่งกันและกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
จะรักหรือจะแยกจาก ขึ้นอยู่กับความมั่นคงของจิตใจ
จึงขอให้รู้ไว้...ถึงตัวห่างไกล แต่ใจเรานั้นยังคงใกล้กัน

นอนหลับฝันดี....
ฉันคนนี้... ยังคงคิดถึงเธอ..
.......
ทุกคืนและทุกวัน
...
..
.

เขียนโดย นางฟ้าสีดำ กับซาตานสีขาว

เครดิตเพลง จดหมายจากพระจันทร์
เครดิตภาพ  Roforce


ใครนำข้อความไปใช้ให้เครดิตด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------
My Blog
เรื่องย่อซีรีส์ : https://reuangyor-series.blogspot.com/
นางฟ้าเดินดิน : https://rainliliesbyearthangelgarden.blogspot.com/
The Reason Why Is : https://thersyis.blogspot.com/
การศึกษาทางไกล DLTV : https://distancelearningforu.blogspot.com/

เรื่องง่ายๆ ที่ผู้ชายไม่รู้



เครดิตภาพ : goodfon.com


เรื่องง่ายๆ ที่ผู้ชายไม่รู้


ณ สถานที่แห่งหนึ่ง
มีเด็กน้อยคนหนึ่ง กำลังเดินเล่นอยู่อย่างเพลิดเพลิน เขาชอบมาเดินเล่นที่นี่เสมอๆ
เพราะสถานที่แห่งนี้ ทำให้เขาหายเหงา และมีความสุข

อยู่มาวันหนึ่ง เขาได้เดินผ่านตู้แสดงสินค้า ในนั้นมีตุ๊กตาอยู่ตัวหนึ่ง
ตุ๊กตาตัวนี้ มีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ไม่สามารถซื้อหาด้วยเงินตราได้
เขาหยุดมองดูตุ๊กตาตัวนั้น และก็เดินจากไป

เวลาผ่านไปๆ
เขาเวียนมาหาตุ๊กตาตัวนั้นทุกวัน และพูดคุยกับตุ๊กตาตัวนั้น
เขาเริ่มรู้สึกว่า มีบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษเกิดขึ้นในใจของเขา
เขาอยากได้ตุ๊กตาตัวนั้น มาครอบครอง
ตุ๊กตานั้นก็ทราบดี ถึงความในใจของเขา
แต่ก็ยังอยากจะพิสูจน์ถึงความมั่นคงของเขา

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน....
เขายังเฝ้าวนเวียน เฝ้าถามเจ้าตุ๊กตาทุกวันๆ บอกถึงความในใจให้ตุ๊กตาได้ล่วงรู้


เด็กน้อย : "เราไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมเราต้องอยากคุยกับเธอ ทำไมเราต้องอยากพบเธอ ทำไมต้องคิดถึง"
ตุ๊กตา : "ของเล่นชิ้นใหม่"
ตุ๊กตา :  "แค่ของเล่น ที่เธอได้แต่ยืนมองมันอยู่ในตู้กระจก ไม่สามารถไขว่คว้ามาได้ แต่เธอก็บอกตัวเองว่า  สักวันเธอจะต้องหยิบมันลงมาอยู่ในมือเธอ แล้วเธอก็มาเดินวนเวียนทุกวันๆ เฝ้าคิดว่าเมื่อไร จะได้มันมาอยู่ในมือ  เชื่อเถอะ เมื่อเธอได้มันมา สักพักเธอก็เบื่อไปเองล่ะ แล้วเมื่อถึงคราวนั้น  เธอจะทิ้งขว้างมันเหมือนของไม่มีคุณค่า"
เด็กน้อย : เธอคิดอย่างนั้นเหรอ
เด็กน้อย : เราเป็นแค่เด็กโง่ๆ คนหนึ่งในสายตาเธอเท่านั้นเหรอ
เด็กน้อย : ถ้าเธอไม่บอกเราคงไม่รู้
เด็กน้อย : ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เราไม่สมควรได้ของเล่นชิ้นนั้นหรอก เก็บไว้ให้คนที่รู้ค่าของของเล่นชิ้นนั้นดีกว่า  ใช่ไหม
เด็กน้อย : เด็กโง่   เล่นของเล่นถูกๆ ก็พอแล้วเพราะคุณค่ามันก็เท่ากันหมด  เพราะไม่รู้คุณค่าของมัน
เด็กน้อย : เราก็คงต้องกลับไปดูตัวเองเหมือนกัน  เราอาจจะเป็นเด็กโง่คนนั้นก็ได้


ตุ๊กตาทราบถึงความเจ็บปวดที่เขาได้รับนั้นดี และอยากจะให้โอกาสเขาได้พิสูจน์สักครั้ง
ด้วยการยินดีที่จะไปอยู่กับเขา จึงตอบเขากลับไปว่า


ตุ๊กตา : "เธอไม่ใช่เด็กโง่่ อย่าคิดมากเลย ถ้าจะให้ดี พิสูจน์ตัวเธอให้เราเห็นก็แล้วกัน"


เขาดูแลเอาใจใส่ ให้ความรัก ความอบอุ่น กับเจ้าตุ๊กตาเป็นอย่างดี 
เจ้าตุ๊กตานั้นรู้สึกมีความสุขมาก

หลายปีต่อมา...
เด็กน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีภาระหน้าที่ ต้องรับผิดชอบมากขึ้น
เขายังคงวางตุ๊กตาไว้บนโต๊ะทำงาน และบอกกับตัวเองว่า ตุ๊กตาตัวนี้เป็นกำลังใจของเขาเสมอ
ตุ๊กตายังคงเฝ้ามองเขาอย่างนั้นทุกวันๆ และทราบถึงความเหน็ดเหนื่อยที่เขาได้รับ

บัดนี้... ไม่มีแม้แต่การพูดคุย หยอกล้อ หรือสัมผัสที่อบอุ่นอย่างเก่าก่อน
ตุ๊กตา บอกตัวเองเสมอว่า ต้องเข้าใจในหน้าที่การงานของเขา
แต่ถึงแม้จะบอกตัวเองอย่างนั้น และเข้าใจว่า เขายังคงมีความรู้สึกดีๆ ให้เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
แต่บ่อยครั้งที่ เจ้าตุ๊กตาตัวนั้น แอบร้องไห้และเสียใจ


คุณเคยปล่อยให้ตุ๊กตาของคุณ แอบร้องไห้ หรือเปล่าคะ


ผู้ชายหลายคน มักใฝ่ฝันถึงความก้าวหน้าของชีวิต และหวังที่จะวางรากฐานที่มั่นคงให้กับครอบครัว
แต่ผู้ชายหลายต่อหลายคน ก็ยังคงไม่เข้าใจว่า รากฐานที่มั่นคงของครอบครัวคืออะไร
บางครั้งคำพูดที่ว่า เรื่องง่ายๆ ที่ผู้ชายไม่รู้ ก็เห็นจะเป็นจริงเสมอ
เพราะรากฐานที่มั่นคงของครอบครัว คือ การให้ความรัก ความอบอุ่น 
ดูแลเอาใจใส่ ให้เวลาที่เหมาะสมแก่คนที่คุณรัก สัมผัสทั้งทางกายและใจ
พูดคุย หยอกล้อ ไปช็อปปิ้งด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน นอนดูทีวีด้วยกัน
แต่ยิ่งอยู่ด้วยกันนานวันไป สิ่งเหล่านี้ไม่รู้ว่าหายไปไหน
คนใกล้ตัว จึงกลับกลายเป็นเหมือนคนที่อยู่ไกล
.....
...
คุณเคยถามคนที่คุณรักไหมคะ ว่าเธอต้องการอะไร...???
..
.


เขียนโดย นางฟ้าสีดำ กับซาตานสีขาว



ใครนำข้อความไปใช้ให้เครดิตด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------
My Blog
เรื่องย่อซีรีส์ : https://reuangyor-series.blogspot.com/
นางฟ้าเดินดิน : https://rainliliesbyearthangelgarden.blogspot.com/
The Reason Why Is : https://thersyis.blogspot.com/
การศึกษาทางไกล DLTV : https://distancelearningforu.blogspot.com/

คนตัดไม้





คนตัดไม้

“มีคนตัดไม้คนหนึ่ง เขาเป็นคนที่ขยันมากๆ เขานำฟืนไปขายให้แก่ร้านขายฟืน ซึ่งเจ้าของร้านขายฟืน ก็ปฏิบัติต่อคนตัดไม้อย่างดีมากๆ ดังนั้นคนตัดไม้จึงคิดอยากตอบแทน โดยการจะตัดไม้ให้ได้เป็นจำนวนมากๆ ในช่วงวันแรกๆ คนตัดไม้ ตัดไม้เพิ่มได้ 10 ต้น, 15 ต้น และ20 ต้น แล้วนำมาขายให้ร้านขายฟืน ซึ่งร้านขายฟืน ก็ชมเชยและปฏิบัติต่อคนตัดไม้เป็นอย่างดีเช่นเคย เขาบอกกับตัวเองว่า เขาจะต้องทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก จะต้องตัดไม้ให้ได้มากยิ่งกว่าเมื่อวาน เขาจึงตื่นเช้ากว่าเดิม และทำงานจนดึกดื่นทุกวันๆ แต่ปรากฏว่า เขากลับตัดได้เพียง 18 ต้น ไม่เคยเกิน 20 ต้นอีกเลย ในวันรุ่งขึ้น เขาก็คิดว่าจะต้องตัดให้ได้มากยิ่งขึ้น แต่เขากลับยังตัดได้เพียง 16 ต้น ทั้งๆ ที่เขาก็ทุ่มเวลาทั้งหมดที่มี ไปแต่เช้าและกลับดึกดื่นทุกวัน จนไม่ได้สนใจทำอย่างอื่นเลย นอกจากตัดไม้

ยิ่งนับวันผ่านไปเรื่อยๆ คนตัดไม้ก็ตัดได้น้อยลงเรื่อยๆ จนในที่สุด คนตัดไม้ก็รู้สึกละอายใจ จึงไปกล่าวคำขอโทษกับทางร้านขายฟืน แต่เจ้าของร้านขายฟืน นอกจากจะไม่ต่อว่าเขาแล้ว กลับถามคนตัดไม้ว่า "คุณลับขวานครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่??" คนตัดไม้ตอบว่า “ผมไม่มีเวลาหยุดลับขวานเลย… เพราะขนาดไม่หยุด ยังตัดไม้ได้น้อยขนาดนี้" เจ้าของร้านพอได้ยินดังนั้น ก็บอกแก่คนตัดไม้ว่า "คุณลองคิดดูสิว่า หากคุณหยุดลับขวานให้คมเสมอ โดยเสียเวลาเพียงเล็กน้อย คุณอาจตัดไม้ได้มากกว่านี้ก็ได้ เปรียบได้กับการทำงาน หากถ้าคุณก้มหน้าก้มตาทำไปโดยไม่รู้จักหยุดพักหยุดคิด ก็เปรียบได้กับคนตัดไม้ คุณก็จะล้าลงไปเรื่อยๆ แล้วสิ่งอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ที่คุณยังไม่ได้จัดการ ก็จะพลอยย่ำแย่ไปด้วย"

หวังว่านิทานเรื่องนี้ จะทำให้เธอรู้นะ ว่าการที่เธอมุ่งมั่นจะไปในด้านๆ เดียว โดยที่เธอไม่ได้หยุดพัก หยุดคิด หยุดทบทวน เอาแต่ทุ่มเวลา ทุ่มกำลัง ทั้งหมดที่มี ไปให้กับสิ่งนั้น จนลืมที่จะมองคนข้างๆ คนที่อยู่ข้างหลัง ครอบครัว สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ตัว ว่ายังมีอย่างอื่นให้เธอต้องคิด ต้องทำ ต้องดูแล ต้องรับผิดชอบ และเมื่อเวลาผ่านไป เมื่อทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่าง ที่เธอเคยมี ค่อยๆ จากเธอไป เธอจะได้รู้ว่า ที่ผ่านมา ที่เธอทุ่มไปทั้งหมดนั้น ไม่ได้ทำให้เธอประสบความสำเร็จในชีวิตเลย



เขียนโดย นางฟ้าสีดำ ซาตานสีขาว


ใครนำข้อความไปใช้ให้เครดิตด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------
My Blog
เรื่องย่อซีรีส์ : https://reuangyor-series.blogspot.com/
นางฟ้าเดินดิน : https://rainliliesbyearthangelgarden.blogspot.com/
The Reason Why Is : https://thersyis.blogspot.com/
การศึกษาทางไกล DLTV : https://distancelearningforu.blogspot.com/


เมื่อความรักออนไลน์



เมื่อความรักออนไลน์


จาก IRC มาเป็น E-mail
จาก E-mail มาเป็น ICQ
จาก ICQ มาเป็น MSN
จาก MSN มาเป็น โทรศัพท์
จาก โทรศัพท์ เราก็ได้พบเจอกัน...

เราถามตัวเองทุกวัน วันละหลายร้อยหน
ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราสองคน...

ผู้หญิงคนหนึ่ง... ที่ชีวิตมีแต่งาน... กับงาน...
วันๆ ได้แต่นั่ง coding อยู่ที่หน้าจอคอมฯ 

กับผู้ชายคนหนึ่ง... ที่พลัดถิ่นไปอยู่แดนไกล
วันๆ มีแต่เรียน...เรียน...เรียน แล้วก็ฝึก...

แล้วอะไรล่ะ... ที่ทำให้เราทั้งสองคนโคจรมาพบกัน...

ตั้งแต่วันแรก...ที่เราเข้ามาคุยกัน...

นาทีแรก... คิดแต่เพียงว่า... ถามไถ่กันสักพัก ก็คงจะร่ำลากันไป
และช่วงเวลาต่อไป... กลับกลายเป็นเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยเห็นแม้แต่หน้า
และช่วงเวลาต่อมา... ก็รู้สึกเหมือนว่า ได้พบเจอ...เพื่อนที่ดีคนหนึ่ง
และเหตุใดเล่า... ความสัมพันธ์ถึงได้แปรเปลี่ยน....
ระหว่างเราสองคน... ใครเปลี่ยนแปลงความรู้สึกก่อนนะ

เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ... รู้แต่เพียงว่า...
ถ้าวันไหนไม่ได้คุยกัน... ก็เหมือนขาดอะไรไป...
เมื่อเสียง "โอ๊ะ..โอว".."โอ๊ะ..โอว" ดังขึ้น ใจนั่นก็สั่นไหว
ไม่ว่ากำลังทำอะไร ต้องรีบละ...แล้วมาเปิดดู

นี่ก็ 20 ปีแล้วสินะ...

ที่ความสัมพันธ์ของเราสองคน ยังคงดำเนินต่อมาเรื่อยๆ และคงจะดำเนินต่อไปอย่างนี้
..........................
แค่เปลี่ยนจากสถานะ "เพื่อน" มาเป็น "สามีภรรยา" แล้ว 
......................
...ก็เท่านั้นเอง...
.....
...
.
ปล. ปัจจุบัน ก็ LINE กับ Facebook
..
.
เขียนโดย นางฟ้าสีดำ กับซาตานสีขาว



ใครนำข้อความไปใช้ให้เครดิตด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------
My Blog
เรื่องย่อซีรีส์ : https://reuangyor-series.blogspot.com/
นางฟ้าเดินดิน : https://rainliliesbyearthangelgarden.blogspot.com/
The Reason Why Is : https://thersyis.blogspot.com/
การศึกษาทางไกล DLTV : https://distancelearningforu.blogspot.com/

ความชอบ กับความรัก แตกต่างกันอย่างไร




ความชอบกับความรัก แตกต่างกันอย่างไร

หลายๆ คน เคยตั้งคำถามว่า  ความรักคืออะไร และ ความรักแตกต่างจากความชอบอย่างไร
คำถามนี้ มีคำตอบหรือไม่  ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละคนจะให้ความหมายของคำว่า ความชอบ กับ ความรัก ไว้ว่าอย่างไร

สำหรับฉัน
ความชอบนั้นมีเหตุผล ที่ทำให้ชอบ เช่น ฉันชอบเธอเพราะ ??? เพราะ ??? และ เพราะ ???
แต่ความรักไม่มีเหตุผล ไม่มีคำใดๆ ฉันรักเขาเพราะ....??? นึกไม่ออกจริงๆ

ทำไมฉันคิดเช่นนั้นก็เพราะว่า
ถ้าคุณสามารถบอกได้ว่า อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณ...รักเขาหรือเธอคนนั้นมาก...
แล้วถ้าวันหนึ่ง เขาหรือเธอคนนั้น คนที่คุณบอกว่า...คุณรักเขาเพราะอะไร
ไม่มีในสิ่งนั้น ไม่มีในสิ่งที่คุณบอกว่ารัก คุณก็จะเลิกรักเขาหรือเธอไป.... ใช่หรือไม่???
ในทางกลับกัน...
ถ้าคนที่คุณบอกว่าชอบเพราะอะไร ไม่มีในสิ่งที่คุณชอบแล้ว
คุณก็สามารถเลิกชอบเขาได้ ก็ดูไม่น่าจะผิดอะไร

ดังนั้น...
ถ้าหาก...คุณมีเหตุผลของความรัก คุณแน่ใจหรือไม่... ว่ารักเขาหรือเธอคนนั้นจริงๆ  

ลองถามตัวคุณเองสิว่า....
.....
คือความชอบ...หรือความรัก???
..
.
.
เขียนโดย นางฟ้าสีดำ กับซาตานสีขาว


ใครนำข้อความไปใช้ให้เครดิตด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------
My Blog
เรื่องย่อซีรีส์ : https://reuangyor-series.blogspot.com/
นางฟ้าเดินดิน : https://rainliliesbyearthangelgarden.blogspot.com/
The Reason Why Is : https://thersyis.blogspot.com/
การศึกษาทางไกล DLTV : https://distancelearningforu.blogspot.com/

ตัวฉัน ความรัก กับนาฬิกา


เครดิตภาพ : piaget.com


ตัวฉัน ความรัก กับนาฬิกา

ประมาณหนึ่งปีแล้ว... ที่ฉันไม่ได้ใส่นาฬิกาที่ข้อมือของฉัน
ฉัน...ซึ่งเป็นคนที่ติดนาฬิกามาก...
หากวันใด... ฉันไม่ได้ใส่นาฬิกา ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่า มันคือความเคยชิน หรือว่าอะไร
เพราะฉันก็ยังคงเผลอยกข้อมือขึ้นมาดูเหมือนเดิม แต่มันก็คือข้อมือเปล่าๆ ของฉันนั่นเอง
และทุกครั้งที่เป็นอย่างนั้น ฉันจะรู้สึกเก้อเขิน อายเหมือนกัน... บวกกับความผิดหวัง
ภายใต้จิตสำนึกของฉัน... มันเหมือนกับว่า..ชีวิตฉันขาดสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งไป

ในชีวิตฉัน...ใช้นาฬิกาอยู่ไม่กี่เรือน แต่... แต่ละเรือนจะอยู่กับฉัน จนกระทั่งมันพังจากฉันไป
ฉันจะใช้นาฬิกาทีละเรือนๆ ไม่เคยเลย..ที่ฉันจะมีนาฬิกาหลายเรือนในเวลาเดียวกัน

เรือนแรก... เป็นนาฬิกาที่ฉันจดจำได้เป็นอย่างดี ฉันเก็บเงินซื้อมันด้วยตัวเอง
มันอยู่กับฉันนานทีเดียว จนมันพังจากฉันไป

เรือนสุดท้าย... เป็นของขวัญวันรับปริญญาจากแม่ฉันเอง
ฉันรักมันมากนะ เพราะจำได้ว่า ตั้งแต่เกิดมา ฉันได้ของขวัญชิ้นนี้เป็นชิ้นที่สองจากแม่
ชิ้นแรก คือ ของขวัญวันเกิด เป็นโคมไฟธรรมดาๆ มีตุ๊กตาอยู่ที่ฐานโคมไฟ รู้สึกตอนนั้นฉันอายุได้ 13 ปี
แม่คงทนเห็นฉันใช้โคมไฟที่ทำขึ้นเองไม่ไหวมั้ง
แต่ฉันดีใจมากเลยนะ เชื่อไหม ทุกวันนี้ โคมไฟนั่นก็ยังอยู่ ฉันยังใช้งานมันเหมือนเดิมทุกอย่าง ตอนนี้ก็ผ่านไป 14 ปีแล้วล่ะ
นอกจากสภาพที่ดูเก่าลงๆ  ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้แต่หลอดไฟ ก็ยังหลอดเดิม
ฉันเคยคิดนะว่า ถ้าหลอดมันเสีย ฉันก็ไม่ซ่อมหรอก ฉันอยากให้มันอยู่สภาพเดิมแบบนี้ทุกอย่าง

ตอนนี้... นาฬิกาเรือนสุดท้ายที่ฉันมี มันไม่เดินแล้วล่ะ
หนึ่งปีมาแล้ว ที่มันวางอยู่นิ่งๆ และหนึ่งปีแล้วที่ฉันไม่ได้ใส่นาฬิกาไปไหนมาไหนเหมือนแต่ก่อน...

ถามว่าทำไม ฉันไม่ซ่อมมันล่ะ??
คำตอบของฉันก็คือ ความจริงมันก็แค่ถ่านหมด เท่านั้นเอง...
แต่ฉันอยากให้มันอยู่สภาพเดิม ไม่อยากให้มีอะไรหายไปหรือมีอะไรใหม่มาแทนที่
มันคือของขวัญจากแม่ฉัน ฉันอยากเก็บไว้อย่างนี้ ในสภาพเดิมทุกอย่าง

ถามว่าทำไม ฉันไม่ซื้อใหม่ล่ะ??
คำตอบของฉันก็คือ นาฬิกาแต่ละเรือนที่เข้ามาในชีวิตฉัน มาแล้วก็จากฉันไป
ฉันที่รักมันมาก แต่กลับต้องเสียมันไป ฉันคงไม่อยากพบกับความเสียใจอย่างนี้อีก

ความฝันของฉัน คือ อยากได้นาฬิกาที่สามารถอยู่กับฉันได้นานและดี เหมาะสมกับฉัน
ฉันว่านาฬิกาก็เหมือนกับความรัก..นั่นเอง
ฉันเฝ้ามองมันทุกวัน มีความสุขที่เห็นมันยังอยู่กับฉัน...
แต่ภายใต้จิตสำนึก ก็คิดว่า มันจะจากฉันไปเมื่อไร ฉันเฝ้าระวัง ทะนุถนอม บอกกับมันเสมอว่า ฉันรักมันมากนะ
ฉันไม่รู้หรอกว่า มันจะเข้าใจภาษารักของฉันหรือเปล่า
ฉันอยากให้มันอยู่กับฉันนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และฉันเสียใจทุกครั้งที่มันจากฉันไป...

แต่หนึ่งปีที่ผ่านมา...ฉันก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ นะ...นั่นคือ

ถ้าฉันลืมตา... นั่นคือเวลาเช้า ที่ฉันจะต้องเตรียมตัวไปทำงาน 
ถ้าฉันถึงที่ทำงาน... นั่นคือเวลา 9.30 น.
ถ้าฉันเห็นพี่ๆ ที่ทำงาน พากันเดินถือกระเป๋าเงินออกนอกห้องทำงาน... คือเวลา 12.00 น.
ถ้าฉันเห็นพี่ๆ เดินกลับมาพร้อมกับบ่นว่าร้อนจัง คือ เวลา 13.00 น.
ถ้าฉันเห็นพี่ๆ ถือกระเป๋าสะพายเดินกลับบ้าน คือ เวลา 16.30 น.นั่นหมายถึงอีกหนึ่งชั่วโมงฉันก็จะได้กลับบ้าน
ถ้าฉันเห็นคำว่า ไปรวม...นะ คือเวลาใกล้ 18.00 น. (คนที่อยู่ต่างประเทศพิมพ์ข้อความมาหา)
ถ้าฉันเห็นคำว่า นอนหลับฝันดี คือเวลาใกล้ 20.30 น. หรือใกล้ 22.00 น. นั่นคือเวลาที่ฉันเองก็ต้องกลับบ้านได้แล้วเช่นกัน (คนที่อยู่ต่างประเทศพิมพ์ข้อความมาหา)
ถ้าฉันหลับตานอน นั่นคือ เวลาประมาณ 02.00 น.-03.00 น.

ฉันสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีนาฬิกาที่ข้อมือ....
ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนฉันจะหงุดหงิดมาก หากฉันไม่ได้ใส่มันไปไหนมาไหนด้วย
ฉันอาจจะคาดคะเนผิดไปบ้าง ไม่ตรงบ้าง แต่ก็พอจะใกล้เคียง

เหมือนฉันเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียว ไม่จำเป็นต้องมีความรัก ฉันก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้...
แต่ฉันก็ไม่เถียงหรอกนะว่า การมีนาฬิกาที่ข้อมือ มันย่อมจะดีกว่า การคาดคะเนเอาเอง

แต่ถ้าหากฉันต้องรับรู้ว่า ฉันจะต้องเสียมันไปอีก ฉันยอมที่จะคาดคะเนเวลาเอาเองดีกว่า...
มันไม่เจ็บปวด นาฬิกามันก็เหมือนความรัก ที่มาแล้วก็จากฉันไป...ครั้งแล้วครั้งเล่า
จนตอนนี้ฉันเองก็ยังไม่กล้า... กับการคิดจะมีนาฬิกาเรือนใหม่

ตอนนี้ ข้อมือของฉัน ก็ยังว่างเปล่า...
ฉันยังหวังว่า... สักวันฉันจะสามารถค้นหานาฬิกาที่ดีและเหมาะสมกับฉัน อยู่กับฉันตลอดไป
....
หวังว่า...สักวันฉันคงจะได้พบ...
..
.


เขียนโดย นางฟ้าสีดำ กับซาตานสีขาว



ใครนำข้อความไปใช้ให้เครดิตด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------
My Blog
เรื่องย่อซีรีส์ : https://reuangyor-series.blogspot.com/
นางฟ้าเดินดิน : https://rainliliesbyearthangelgarden.blogspot.com/
The Reason Why Is : https://thersyis.blogspot.com/
การศึกษาทางไกล DLTV : https://distancelearningforu.blogspot.com/

ใน...ร้านไอศกรีม

    เครดิตภาพ : Tropical Monkey


ใน...ร้านไอศกรีม

วันนั้น...
เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ไปทานไอศกรีม ในร้านที่บรรยากาศค่อนข้างจะโอเค
เป็นอย่างไรน่ะเหรอ ก็...โต๊ะกลมๆ เรียบหรู แต่ดูเก๋ไก๋ มีสไตล์ มีกุหลาบสีชมพูปักอยู่ในแจกันสีขาวทรงเรียวยาว
ต้องขอบคุณ... การจราจรที่ติดขัดมาก และผู้คนที่แน่นขนัด
ทำให้ฉันและเขาต้องเข้าไปพักทานไอศกรีม เพื่อรอเวลาให้ผู้คนเบาบางลงไป

เป็นไอศกรีมที่รสชาติดีที่สุดเลย... ฉันคิดอย่างนั้น...
แต่สิ่งไหน... ก็ไม่มีความสุขเท่า... การได้มีเวลาอยู่กับเขาสองคน
ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน  เป็นความทรงจำที่ไม่เคยลืมเลือน...

เขาชอบไอศกรีมรสวานิลา ส่วนฉันชอบรสช็อคโกแลต
"รสวานิลา" ช่างเข้ากับบุคลิกของเขาเหลือเกินนะ...
เขาที่ดูสนุกสนาน ร่าเริง พูดคุยเก่ง เข้าสังคมง่าย ชอบสังสรรค์ เป็นนิสัยของคนชอบรสวานิลาเลยล่ะ
เราทานกันไป คุยกันไป ฉันยอมรับนะ... ว่าฉันมีความสุขมากเหลือเกิน...

รถเมล์สายที่ฉันจะขึ้นกลับบ้าน วิ่งผ่านไปคันแล้วคันเล่า แต่ผู้โดยสารก็ยังแน่นมากอยู่ดี
เราสองคนจึงตัดสินใจว่า...กลับกันดีกว่า
เพราะรอนานมากแล้ว ถึงจะรอต่อไปก็คงจะแน่นอยู่ดี

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันดีใจมากเลย ก็คือ...
พนักงานของร้านไอศกรีมบอกว่า ฉันสามารถนำแก้วกลับบ้านได้....
ไม่ใช่ว่า...ดีใจได้ของฟรีหรอกนะ แต่ดีใจที่ได้ของที่ระลึกมากกว่า
มันเป็นความทรงจำที่ฉันอยากเก็บไว้ ฉันรู้สึก...สวรรค์ช่างเมตตาฉันจังเลย
พนักงานถามฉันว่า "จะรับแก้วใบใหม่ไหมคะ?"
"ไม่หรอกค่ะ เราอยากได้ใบที่ใช้ดื่มเมื่อกี้มากกว่า" ฉันตอบ
ทำไมไม่เอาใบใหม่เหรอ ไม่เปื้อนด้วย...???
ไม่หรอก... ฉันคิดในใจ ฉันอยากได้ใบที่... มือเขา... ริมฝีปากของเขา...สัมผัสมากกว่า
อย่างนี้สิ... ถึงจะเรียกว่า... ของที่ระลึก...

วันนั้น...คนแน่นมาก แน่นขนาดที่ฉันเอง แทบจะต้องยืนขาเดียว
มีมือหนึ่ง..มาโอบเอวฉันไว้... ฉันก้มลงดูมือนั่น พลางคิดในใจว่า...เกิดมาก็เพิ่งจะเคยโดนโอบแบบนี้...
ไม่มีคำพูดใดๆ แต่ฉันกลับรู้สึกอบอุ่น และปลอดภัย... เหมือนมีคนคอยปกป้องฉัน
แม้ผู้คนจะมาก เบียดเสียดกัน แต่ฉันรู้สึกเหมือนมีอาณาเขตที่แบ่งแยกฉันกับผู้คนเหล่านั้น ออกจากกันโดยสิ้นเชิง

ตื่น...ตื่น...ตื่น!!! ฉันปลุกตัวเองออกจากภวังค์
ทุกครั้ง...ที่ฉันมีโอกาส ได้ผ่านไปที่ร้านไอศกรีมแห่งนั้น หรือนั่งรถเมล์สายนั้น...
ฉันจะคิดถึงเรื่องราววันนั้นเสมอ...

เขาคนนั้น... อาจจะไม่ใช่คนพิเศษของใครๆ แต่เขามีความหมาย...มากมายต่อฉัน
หลายเดือนที่ผ่านมา...ฉันยังคงกลับไปนั่งทานไอศกรีม ที่โต๊ะตัวเดิมนั่น...
แต่ตอนนี้... ฉันรู้สึกเหมือนใจหาย...
เก้าอี้ข้างๆ ฉัน ยังคงว่างเปล่า ไม่มีเขานั่งอยู่ตรงนั้น

ฉันยังคงนั่งอยู่ที่ตรงนี้... กับความรู้สึกที่เดียวดาย...
ฉันไม่สนว่าเขาคือใคร... ฉันรู้แต่เพียงว่า...
เขาคือคนที่ฉันอยากรัก... อยากขอให้เขา...นั่งอยู่ตรงนี้
และต่อจากนี้ไป... จะไม่ไปไหนอีก...

ฉันยังหวังเสมอว่า... ฉันกับเขา...จะได้กลับมานั่งทานไอศกรีมที่เดิม
แม้ว่า...มันอาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อย...
แต่ฉันก็ยังเฝ้ารอ...วันนั้น...
..............
วันที่...เขาจะกลับมา...
...........
และ...
.......
อยู่ข้างๆ ฉัน ตลอดไป
.....
...
..
.
เขียนโดย นางฟ้าสีดำ กับซาตานสีขาว



ใครนำข้อความไปใช้ให้เครดิตด้วยนะคะ
----------------------------------------------------------
My Blog
เรื่องย่อซีรีส์ : https://reuangyor-series.blogspot.com/
นางฟ้าเดินดิน : https://rainliliesbyearthangelgarden.blogspot.com/
The Reason Why Is : https://thersyis.blogspot.com/
การศึกษาทางไกล DLTV : https://distancelearningforu.blogspot.com/

บทความที่ได้รับความนิยม

รายการอัพเดทล่าสุด

บล๊อคของฉัน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------